องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ปชช. ในพื้นที่น้ำท่วม จ.พิจิตร - จ.สระบุรี

องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดสระบุรี

วันนี้ ที่ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี พร้อมด้วยคณะมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน จำนวน 2,643 ชุด มอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่าง ๆ สำหรับนำไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ได้รับทราบ

จากนั้น ลงพื้นที่เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ที่บ้านเนินสาลิกา หมู่ที่ 4 ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จำนวน 7 ครอบครัว ซึ่งจังหวัดพิจิตรได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดน้ำไหลลาก และท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ 71 ตำบล 482 หมู่บ้าน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่

พร้อมกันนี้ ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,500 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และนายอำเภอต่าง ๆ เป็นผู้แทนรับมอบ

โอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใย ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ จากนั้นลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 11 ครอบครัว ในชุมชนดาวเสด็จ ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

จังหวัดสระบุรี ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" ฝนที่ตกหนักสะสมไหลลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ทำให้พนังกั้นน้ำบริเวณตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และอีกส่วนได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกท้ายเขื่อน ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงแม่น้ำป่าสัก ไหลผ่านพื้นที่อำเภอต่าง ๆ เกิดน้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง ได้รับความเสียหายใน 11 อำเภอ 7,229 ครัวเรือน

ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ทางจังหวัด เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป