"ถ้ำหลวง" เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าชม 15 ต.ค. นี้

อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มีกำหนดจะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมและสัมผัสกับบรรยากาศของถ้ำหลวงอีกครั้ง โดย นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้มีประกาศว่าทางอุทยานจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2564 นี้เป็นไป

นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เปิดเผยว่า หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีประกาศปิดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุดทางอุทยานจะกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้ง โดยจะมีการเปิดให้เข้าชมได้ทั้งที่ถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอนหรือสระมรกตพร้อมกัน ภายใต้มาตรการป้องกันและคัดกรองผู้เข้าชมตามมาตรฐานทางสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2564 นี้เป็นต้นไป

ในส่วนของของถ้ำหลวงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมภายในถ้ำหลวงได้ลึกประมาณ 200 เมตร จำกัดจำนวนผู้เข้าชมไม่ให้เกิน 40 คน เพื่อความปลอดภัยทางสาธารณสุข และเหมาะสมกับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีสูง เพราะพื้นที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นปกติ การควบคุมจำนวนจะใช้การมอบไฟฉายในการให้นักท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลทุกจุด โดยเฉพาะด้านหน้ามีแนวรั้วกั้นไม่ให้เกินจำนวน ขณะที่ขุนน้ำนางนอนหรือสระมรกตที่เปิดให้เข้าชมได้แต่ยังไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำจนกว่าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.แม่สาย จะอนุญาต

การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 40 คนดังกล่าว คือจำนวนผู้ที่จะเข้าไปในถ้ำหลวง โดยใช้ระบบหมุนเวียนกัน คนออกมาเท่าไหร่ก็จะเติมเข้าไปเท่านั้น เช่น ออก 10 ให้เข้าไปอีก 10 โดยมีบัตรสีแจกให้ ส่วนผู้ที่ไม่เข้าไป สามารถชมนิทรรศการ ถ้ำอื่นๆ สถานที่สำคัญโดยรอบ เช่น อนุสาวรีย์ นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ศาลาอนุสรณ์สถาน ฯลฯ นอกจากนี้ที่หน้าถ้ำยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงช่วงกลางปี 2561

ในความเป็นจริงแล้วระยะทางจากปากถ้ำหลวงถึงเนินนมสาว ลึกประมาณ 2,430 เมตร ใช้เวลาเดินไปถึงนานนับวัน แต่เฉพาะโถงที่ 1 ซึ่งถือเป็น 1 ใน 10 ของเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้บรรยากาศแล้วโดยมีความมืด และถ้ำหลวงจะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น คือไม่มีกลิ่นของมูลค้างคาว อากาศเย็น บรรยากาศชวนให้น่าค้นหา จากจุดปากถ้ำไปถึงจุดโถง 1 ที่เปิดให้เข้าไปจะใช้เวลาหากเดินทางไปกลับทันทีประมาณ 15 นาที แต่ถ้าเข้าไปถ่ายภาพเซลฟี ฟังบรรยายก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในถ้ำลึกเข้าไปประมาณ 50 เมตร จะมองเห็นหินงอกหินย้อยที่งดงาม และถ้าเดินลึกเข้าไปลึกประมาณ 150 เมตร ก็จะเป็นห้องโถง 1 ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยชีลจะใช้เป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ถัดไปคือห้องโถงที่ 2 เดิมต้องดำน้ำเข้าไปแต่ปัจจุบันน้ำแห้งหมดแล้ว แต่ก็จะอนุญาตให้เข้าไปถึงแค่ห้องโถงที่ 1 ไปก่อน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปชมต้องปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย และ ศปค.อ.แม่สาย อย่างเข้มงวด เช่น ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 มาแล้วครบ 2 เข็ม ถ้าไม่ได้ฉีดมาก็ต้องผ่านกระบวนการตรวจหาเชื้อตามลำดับ