ประเด็นข่าวรอบวัน 10 ส.ค.2564 - ก้าวไกล จี้ 'ประยุทธ์-ประวิตร' แจงเอกสารจับตา 183 รายชื่อ

ทุจริตซื้อถุงมือยางล็อตแสนล้าน ฟันวินัยร้ายแรง 3 ราย

คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย กระทรวงพาณิชย์ กรณี เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า 3 คน นำโดยอดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ใช้เวลาพิจารณา 5 เดือน

ได้ข้อสรุปว่า ทั้ง 3 คน มีความผิดวินัยร้ายแรง และได้ออกหนังสือลงวันที่ 30 ก.ค.2564 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 15 ส.ค.2564 หลังจากนั้นคณะกรรมการฯ จะเสนอความเห็นให้ไล่ออก ส่งผลให้ทั้ง 3 คนไม่ได้รับเงินบำเน็จ หรือบำนาญใด ๆ และ อคส. จะฟ้องร้องเรียกเงินเดือนกลับจากทั้ง 3 คนนับตั้งแต่ที่ความผิดเกิดขึ้น หรือตั้งแต่เดือนส.ค.2563 เป็นต้นมาด้วย

ก้าวไกล จี้ 'ประยุทธ์-ประวิตร' แจงเอกสารจับตา 183 รายชื่อ

กรณีมีเอกสารลับระบุมีบุคคล 183 รายชื่อ ถูกจับตาจากฝ่ายความมั่นคง ส่วนใหญ่เป็นคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล โดย 7 คน เป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล และ แกนนำคณะก้าวหน้า ล่าสุดเลขาธิการพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็น 1 ในบุคคลที่มีรายชื่อ เปิดเผยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการคุกคามคนเห็นต่าง เพื่อความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และไม่เว้นแม้แต่เยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี

ดังนั้นจึงอยากให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลฝ่ายความมั่นคง ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ และปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ พร้อมขอให้หยุดพฤติกรรม อย่ามองประชาชนเป็นศัตรู

ด้านรองโฆษก สตม. ชี้แจง เพราะมีชื่อสารวัตร ตม.ประทับในเอกสาร ว่า ตม.ไม่ได้เป็นผู้จัดทำเอกสารดังกล่าว

ลูกบ้าน "แอชตัน อโศก" แถลงผลกระทบ เรียกร้องความชัดเจน

เจ้าของห้องพักคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก ที่ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ร่วมกันออกแถลงการณ์ชี้แจงผลกระทบที่ได้รับ ทั้งถูกธนาคารปฎิเสธสินเชื่อรีไฟแนนซ์ โดยอ้างว่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มั่นคง และยังกระทบต่อการซื้อขาย ให้เช่า หรือ โอนกรรมสิทธิ์

จึงเรียกร้อง ความชัดเจน 3 ประเด็นคือ ใครจะเป็นฝ่ายเยียวยาผลกระทบระยะสั้น ด้านการเงิน และความเชื่อมั่น , ใครจะรับผิดชอบหากคอนโดมิเนียมถูกทุบทิ้ง ระหว่างหน่วยงานรัฐ กับบริษัทอนันดาฯ ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการ และสามลูกบ้านเคารพคำตัดสินของศาล และหากศาลปกครองสูงสุดตัดสินยืนตามศาลปกครองกลาง ก็ต้องมีมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น

IPPC รายงานโลกร้อนเร็วขึ้น

คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศหรือ IPCC ซึ่งเป็นหน่วยงานทางวิชาการที่ประมวลและสังเคราะห์องค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก เผยแพร่รายงานประเมินฉบับที่ 6 ในส่วนวิทยาศาสตร์พื้นฐานทางกายภาพด้านสภาพภูมิอากาศ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า โลกร้อนเร็วขึ้น จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ มีส่วนทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น 1.1 องศาเซลเซียส สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และคาดว่าจะเพิ่มสูงถึงหรือเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ในอีก 20 ปีข้างหน้า

และนับเป็นครั้งแรกที่รายงาน ได้นำเสนอการประเมินการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับภูมิภาคในรายละเอียด ส่วนแนวทางแก้ไขในเบื้องต้นคือทั่วโลกต้องลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากระดับปัจจุบันลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และหยุดปล่อยคาร์บอนได้อย่างสมบูรณ์หรือ net zero ภายในช่วงกลางศตวรรษนี้ ซึ่งทั่วโลกจะมีการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP26 ที่เมืองกลาสโก ประเทศสก๊อตแลนด์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมีสหราชอาณาจักรและอิตาลีร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม