สังคม
กรมชลฯ เผยสถานการณ์น้ำภาคกลาง-ลุ่มเจ้าพระยาดีขึ้น อีสานกลับสู่ปกติสิ้นเดือน ต.ค.
9 มี.ค. 2565
51 views
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ซึ่งไหลมารวมกันที่จังหวัดอุบลราชธานี แนวโน้มระดับน้ำลดลง ที่สถานี M7 ระดับน้ำจากที่เคยสูงสุด 7.48 เมตร ลดลงมาเหลือ 7.12 เมตร ประกอบกับระดับในแม่น้ำโขงต่ำกว่าแม่น้ำมูล กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายน้ำไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด
ขณะที่อิทธิพลจากพายุดีเปรสชันไลออนร็อก ซึ่งอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคอีสานตอนบนของไทย บริเวณจังหวัดนครพนม สกลนคร ก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้เตรียมพร่องน้ำ และบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำซึ่งมีพื้นที่รองรับน้ำอีกปริมาณมาก
โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ หากมีฝนตกหนักสามารถเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโขงได้ทันที และจากข้อมูลคาดการณ์หากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวไปยังภาคเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดน่าน จะเป็นผลดีช่วยเติมน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ แต่ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา
ส่วนลุ่มน้ำชีจากเหตุน้ำท่วมที่จังหวัดชัยภูมิ ขณะนี้มวลน้ำไหลมาถึงจังหวัดมหาสารคาม ปริมาณน้ำแนวโน้มลดลง กรมชลประทานได้มีการหน่วงน้ำชะลอน้ำ และปรับลดการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำ รวมถึงจัดการจราจรทางน้ำ คาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 10 วัน ปริมาณน้ำจะเริ่มกลับเข้าสู่ลำน้ำหรือต่ำกว่าระดับตลิ่ง ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำที่จะใช้เวลานานกว่า
สำหรับพื้นที่ภาคกลาง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น ปริมาณน้ำเหนือที่แม่น้ำปิง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ลดลงเหลือประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีการตัดยอดน้ำออกทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ประมาณ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งแนวโน้มลดลงเช่นกัน อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล ในช่วงที่ไม่มีน้ำทะเลหนุน โดยอาศัยประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์
นอกจากนี้ยังใช้การหน่วงน้ำ ผันน้ำบางส่วนเข้าทุ่งรับน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ 10 ทุ่ง ในปีนี้ถือว่ามีความโชคดีที่เกษตรกรสามารถเริ่มทำนาได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน จึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว และมีพื้นที่สำหรับรองรับน้ำ ซึ่งขณะนี้มีน้ำเข้าทุ่งไปแล้วกว่าร้อยละ 94 เกือบเต็มศักยภาพที่สามารถรองรับน้ำได้ 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตร
หลังจากนี้นอกเหนือจากการเฝ้าติดติดตามพายุทั้ง 2 ลูก เชื่อว่าแนวโน้มปริมาณฝนจะลดลงในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง และหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าภาคกลาง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคันกั้นน้ำที่ถูกน้ำท่วม ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ปริมาณน้ำจะเริ่มกลับเข้าสู่ลำน้ำได้ประมาณช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
ส่วนพื้นที่ภาคอีสาน ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำ ปริมาณน้ำจะเริ่มกลับเข้าสู่ลำน้ำได้ประมาณช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ต่อเนื่องต้นเดือนพฤศจิกายน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/LjLtQ4wsgXk
แท็กที่เกี่ยวข้อง กรมชลประทาน ,ระบายน้ำท่วม ,น้ำท่วมภาคกลาง ,น้ำท่วมอีสาน